แฟนบอลแสดงความมั่นใจว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังทีม ลิเวอร์พูล จะอำลาสโมสรหลังจบซีซั่นนี้ตาม เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน พร้อมเชื่อสตาร์ทีมชาติ ฮอลแลนด์ มีสโมสรที่เขาต้องการย้ายไปร่วมทัพอยู่ในใจแล้ว
ฟาน ไดค์ ถูกสื่อสอบถามถึงอนาคตการค้าแข้งหลังจาก คล็อปป์ ประกาศอำลาทีมในซัมเมอร์นี้ และปรากฏว่าปราการหลังร่างยักษ์ซึ่งเหลือสัญญากับ หงส์แดง จนจบซีซั่นหน้า 2024/25 ไม่คิดยืนยันว่าจะรับใช้ถิ่น แอนฟิลด์ ต่อซึ่งทำให้คาดกันว่าเขาพร้อมอำลาทีมเช่นกัน
“มันเป็นคำถามใหญ่ ผมไม่รู้จริงๆ” ดาวเตะวัย 32 ปี กล่าว
ต่อกรณีดังกล่าว แฟนบอลพากันลงความเห็นว่า ฟาน ไดค์ มีทีมที่เขาต้องการย้ายไปค้าแข้งด้วยอยู่ในใจแล้วจากการย้อนดูบทสัมภาษณ์รวมทั้งการกระทำของเขาในอดีต
แรกทีเดียว ดาวเตะค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (ราว 3,375 ล้านบาท) ซึ่งย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในปี 2018 เคยให้สัมภาษณ์กับ แกรี่ เนวิลล์ เมื่อปี 2022 ว่าชื่นชอบการลงเล่นที่ คัมป์นู มากที่สุด
“ผมขอบอกว่า คัมป์นู สนามของ บาร์เซโลน่า เป็นสนามนัดเยือนที่ผมโปรดปรานที่สุด สำหรับตัวผมเอง แน่นอนว่าผมดูเกมของ บาร์เซโลน่า บ่อยมากตอนที่ผมยังเด็ก และการได้เล่นที่นั่นมันน่าทึ่งมาก” ฟาน ไดค์ กล่าวกับกูรูคนดัง
“กับ เซลติก หนแรกเราบุกไปแพ้ 6-1 ซึ่งเป็นเกมที่ยาก แต่ผมสนุกกับการได้เล่นที่นั่น สนามใหญ่มาก มันบ้าดีจริงๆ”
นอกจากนี้ ในการให้สัมภาษณ์หนที่สอง ฟาน ไดค์ ระบุว่า โรนัลดินโญ่ อดีตดาวดังของ บาร์เซโลน่า คือไอดอลของเขา
“เขามีความแตกต่างคุณก็รู้ เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ทุกคนเฝ้าดู และเขายิงประตูได้อย่างมีลูกเล่นและชั้นเชิง”
“คุณเอง (แกรี่) เคยดวลกับเขาสองสามหน เขาเป็นนักเตะที่เยี่ยมที่สุดในโลก เขาเป็นแรงบันดาลใจให้ผมในแนวทางที่แตกต่างไปเพราะผมไม่ใช่กองหน้า แต่เขามีอิทธพลทำให้ผมเป็นอย่างในทุกวันนี้”
สุดท้ายแล้ว ฟาน ไดค์ แสดงความรักที่มีต่อ บาร์เซโลน่า เมื่อเดือนก่อนโดยเขาใส่ชื่อ โรนัลดินโญ่ , ลิโอเนล เมสซี่ และ โรนัลโด้ อดีตกองหน้าทีมชาติ บราซิล เป็นสามสมาชิกจากถิ่น คัมป์นู ที่อยู่ในโผทีมโต๊ะเล็กห้าคนในฝันของเขา
ฟาน ไดค์ ลงบู๊ให้ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 246 นัด และพาทีมคว้าแชมป์ไดออย่างครบครันทั้ง พรีเมียร์ลีก , เอฟเอคัพ , คาราบาวคัพ , สโมสรโลก และ แชมเปี้ยนส์ลีก
นอกจากพ่อค้าแข้ง ฟลายอิ้งดัตช์แมน แล้ว คาดว่า ลิเวอร์พูล จะเสีย โม ซาลาห์ ในซัมเมอร์นี้เช่นกัน รวมทั้ง อลิสซง นายทวารทีมชาติ บราซิล ด้วยโดยสองรายหลังตกเป็นเป้าหมายของทีมใน ซาอุดิ อาระเบีย
