วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ปลุกผี! 5 ประเด็น แมนยู แค่เฉือนชนะ ลูตัน

thumbnail

แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาคว้าชัยชนะในเกม พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จหลังสร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอลในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก นัดกลางสัปดาห์เมื่อเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ ลูตัน ในเกมวันเสาร์ที่ 11 พ.ย.และเฉือนชนะน้องใหม่ได้แบบหวุดหวิดแค่ 1-0 เท่านั้นจากประตูของ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ ซึ่งบ่งบอกให้เห็นว่า ปีศาจแดง ยังมีฟอร์มที่น่าอ่อนออกอ่อนใจไม่เลิก

 

  1. แรชฟอร์ด สร้างสถิติ

มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าทีม แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรในวัย 26 ปี 11 วันที่ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ครบ 250 นัดเร็วที่สุด

นอกจากนี้ สตาร์ทีมชาติ อังกฤษ นับเป็นขุนพล เร้ด เดวิลส์ รายที่ 16 ที่ลงสนามผ่านถึงหลักดังกล่าวให้กับต้นสังกัด ขณะที่ เอริค เทน ฮาก คุมทีม ผีแดง ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ครบ 50 นัดของเขาพอดีซึ่งเป็นนายใหญ่คนที่ 17 ของสโมสรที่ผ่านมาถึงหลักนี้ และมีการปรับโผตัวจริงสองรายจากเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ที่บุกไปแพ้ โคเปนเฮเก้น 4-3 เมื่อกลางสัปดาห์

ในจำนวนนี้ อารอน วาน บิสซาก้า หายหน้าไปอีกหนเนื่องจากป่วยโดยมี เซร์คิโอ เรกีลอน กลับมาออกสตาร์ต ขณะที่ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ แทนที่ จอนนี่ อีแวนส์ ที่บาดเจ็บ ทำให้ ราฟาแอล วาราน ต้องรับบทตัวสำรองตามเดิมเป็นนัดที่ห้าติดต่อกัน

 

  1. ลูตัน ยึดชุดเก่าเจ๊า ลิเวอร์พูล

ลูตัน ของกุนซือ ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ ซึ่งนัดก่อนเกือบสร้างชื่อเปิดบ้านคว่ำ ลิเวอร์พูล เมื่อวันอาทิตย์บุกมาเยือน โรงละครแห่งความฝัน ด้วยการส่ง 11 นักเตะชุดเดิมลงบู๊

เท่ากับว่า เทเดน เมนจี้ อดีตเด็กปั้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาบู๊กับทีมเก่า ขณะที่ ทาฮิธ ชอง ผลผลิตของ ปีศาจแดง อีกรายซึ่งลุกจากม้านั่งข้างสนามไปยิงประตูพาทีมนำหน้า ลิเวอร์พูล มีชื่อนั่งอยู่ในซุ้มอีกเกม

 

  1. น้องใหม่รับมือสบาย

แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีปัญหาให้แก้ไขบานตะไททั้งเกมรุกที่ไม่มีความอันตรายเลยแม้แต่น้อย ขณะที่เกมรับก็แลดูหละหลวม แถมยังหนีไม่พ้นมีนักเตะเจ็บเพิ่มอีกจนได้

คริสเตียน เอริคเซ่น คือเหยื่อรายล่าสุดที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานท้ายครึ่งแรก แต่อาจไม่หนักหนา และทำให้โอกาสตกเป็นของ เมสัน เมาท์ อีกหน

แต่ก่อนหน้านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ทิ้งโอกาสทองในการได้ประตูตั้งแต่ต้นเกมจากโอกาสเหน่งๆของ ราสมุส ฮอยลุนด์ อีกทั้งท้ายครึ่งแรก อเลฮานโดร  การ์นาโช่ ที่ได้ลูกจ่ายอย่างงามจากดาวยิงทีมชาติ เดนมาร์ค กลับเงื้อง่าราคาแพงอย่างน่าเขกกระโหลก

ในส่วนของเกมรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเล่นแบบเปิดช่องให้คู่แข่งเข้าทำโดยไม่คิดเข้าปะทะหรือตัดไฟแต่ต้นลม และทำให้ อ็องเดร โอนาน่า ต้องออกแรงเซฟลูกโขกของ คาร์ลตัน มอร์ริส ชนิดไม่มีใครคุม จึงเป็นอีกเกมที่ ผีแดง เล่นได้อย่างน่าเป็นห่วงโดยสถิติหลังจบเกม 45 นาทีแรกบ่งชี้ว่า เดอะ แฮ็ตเตอร์ส ทำเสียวได้ดีกว่าด้วยซ้ำจากโอกาสยิง 4 ครั้งที่เข้ากรอบ 3 ครั้ง ขณะที่เจ้าบ้านซึ่งครองบอลได้มากกว่า 76:24% ได้ยิง 7 ครั้งแต่เข้ากรอบแค่ครั้งเดียวซึ่งชี้ให้เห็นว่าเกมรุกของพวกเขาย่ำแย่เกินทน

 

  1. ลินเดอเลิฟ สวมบทฮีโร่

ใครจะไปคิดว่าเกมปะทะกับทีมน้องใหม่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังประสบกับปัญหาในการเจาะตาข่าย และสุดท้ายมาได้ประตูจาก วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ปราการหลังทีมชาติ สวีเดน ในนาทีที่ 59 พาทีมคว้าชัยไปแบบเฉียดฉิวอีกตามเคย

จึงเป็นอีกครั้งที่ซีซั่นนี้ ผีแดง ต้องอาศัยกองหลังยิงประตูชัยให้ทีมอย่างก่อนหน้านี้ วาราน , 

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ดีโอโก้ ดาโลต์ ทำสำเร็จกระทั่งมาถึงคิวของ ลินเดอเลิฟ จนได้ที่กลายมาเป็นแผงหลังรายที่สี่ที่พาทีมกำชัยชนะ

ขณะเดียวกัน มันเป็นประตูแรกของ ลินเดอเลิฟ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2020 ในเกมเฝ้าบ้านชนะ ลีดส์ 

สำหรับสถิติหลังจบ 90 นาที เร้ด เดวิลส์ ครองบอลได้มากกว่า 65:35% และได้ยิงมากกว่า 15- 10 ครั้ง แต่ทั้งสองทีมส่งบอลเข้ากรอบ 4 ครั้งเท่ากัน

 

  1. เกมโหดรออยู่เพียบ

แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่พลาดคว้าสามแต้มจากทีมน้องใหม่ก็จริง แต่รูปเกมโดยรวมยังจัดว่าย่ำแย่จึงทำให้พวกเขายิงได้แค่ประตูเดียวเท่านั้น แถมต้องอาศัยกองหลังเป็นฮีโร่อีกต่างหาก

ฉะนั้นแล้ว หาก เทน ฮาก ยังพาทีมยกระดับฟอร์มการเล่นไม่ได้ก็บอกได้เลยว่าหลังพ้นช่วงเบรกเกมทีมชาติ ผีแดง มีหวังลำบากแน่ และมันอาจส่งผลถึงตำแหน่งของกุนซือดัตช์อย่างที่สื่อคาดการณ์ด้วยเนื่องจาก ปีศาจแดง มีเกมยากรออยู่เต็มไปหมด แถมจะเป็นเกมเยือนสามนัดติดต่อกัน

เริ่มจากนัดบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ซึ่งซีซั่นนี้มีผลงานกระเตื้องขึ้นเยอะ ก่อนออกไปเยือน กาลาตาซาราย ในเกมชี้ชะตาว่าพวกเขาจะมีลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก หรือเปล่าหลังจากสี่นัดที่ผ่านมา ทีมจาก โรงละครแห่งความฝัน แพ้ไปถึงสามนัด และชนะแค่นัดเดียว

เท่านั้นไม่พอ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีเกมลีกนัดบุกไปเยือน นิวคาสเซิ่ล เช่นกันก่อนเปิดบ้านฟัดกับ เชลซี ซึ่งดูแววแล้วน่าจะตัดสินอนาคตของ เทน ฮาก ได้เลยว่าเขาจะกระเด็นออกจากสโมสรในเดือนธ.ค.หรือเปล่า แถมไม่ใช่แค่สี่เกมนี้เท่านั้นหากแต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเปิดศึกกับ บาเยิร์น ในเกมปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่มถ้วยหูใหญ่ และต้องบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ในเกมแดงเดือดด้วย

 

26 พ.ย. เอฟเวอร์ตัน – แมนฯ ยูไนเต็ด

29 พ.ย. กาลาตาซาราย – แมนฯ ยูไนเต็ด

2 ธ.ค. นิวคาสเซิ่ล – แมนฯ ยูไนเต็ด

6 ธ.ค. แมนฯ ยูไนเต็ด – เชลซี

9 ธ.ค. แมนฯ ยูไนเต็ด – บอร์นมัธ

12 ธ.ค. แมนฯ ยูไนเต็ด – บาเยิร์น

17 ธ.ค. ลิเวอร์พูล – แมนฯ ยูไนเต็ด