เสน่ห์จะหายไปหรือเปล่า? เกม เอฟเอ คัพ ทุกรอบนับจากซีซั่นหน้า จะไม่มีนัดแข่งใหม่อีกต่อไป และจะเตะกันในช่วงสุดสัปดาห์เท่านั้น
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ จะยกเลิกนัดรีเพลย์ตั้งแต่รอบแรกเป็นต้นไปโดยเริ่มในฤดูกาล 2024/25 และทุกรอบจะเล่นกันในช่วงสุดสัปดาห์ รวมถึงรอบ 5 ที่ก่อนหน้านี้เล่นในช่วงกลางสัปดาห์มาตลอดช่วง 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา
เดิมทีตามธรรมเนียมของ เอฟเอ คัพ ที่แฟนบอลคุ้นเคยกันดี นั่นคือหากเสมอกัน จะต้องมีการแข่งขันนัดรีเพลย์หรือแข่งใหม่ แต่ช่วงหลังรอบลึกๆ เริ่มไม่มีรีเพลย์เพื่อช่วยเหลือสโมสรใน พรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะทีมที่มีโปรแกรมเล่นถ้วยยุโรป
สำหรับถ้วย เอฟเอ คัพ ในรอบแรกและรอบสองจะมีทีมจาก ลีก วัน และ ลีก ทู ร่วมลงเล่น ส่วนทีมจาก แชมเปี้ยนชิพ และ พรีเมียร์ลีก จะเริ่มลงเล่นตั้งแต่รอบสาม และตั้งแต่ซีซั่นหน้าทุกรอบจะเล่นช่วงสุดสัปดาห์ ยกเว้นรอบ 4 ที่จะขยายให้เล่นตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันพุธ
แน่นอนว่า การยกเลิกนัดรีเพลย์ถือเป็นข่าวดีของสโมสรใหญ่ๆ โดยเฉพาะในฤดูกาลหน้าจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ในฟุตบอลถ้วยยุโรปที่มีทีมลงเล่นมากขึ้น แต่ทีมจากลีกรองจะเสียประโยชน์ เพราะสมัยมีเกมแข่งใหม่ใน เอฟเอ คัพ จะช่วยให้สโมสรเล็กๆ มีรายได้มากขึ้น โดยเฉพาะถ้าได้ไปเล่นบ้านทีมใหญ่ๆ ที่จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากตั๋วก้อนโต
จากการยกเลิกนัดรีเพลย์กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ทันที โดยแฟนบอลรายหนึ่งวิจารณ์ว่า “การตัดสินใจที่น่าอับอายอีกครั้ง! บางสโมสรต้องการเงินและคุณก็มายกเลิกรีเพลย์! มันบ้าจริงๆ” ขณะที่อีกคนเสริมว่า “นี่มันเป็นมนต์เสน่ห์ของ เอฟเอ คัพ ทีมเล็กๆ จะได้มีโอกาสเจอทีมใหญ่ทั้งในบ้านและนอกบ้าน”