- ครองบอลมากกว่า โอกาสยิงมากกว่า แต่ได้แค่ผลเสมอ
- มาซิโดเนียเหนือ นำก่อนด้วยตอนท้ายครึ่งแรก
- และนี่คือคะแนนความสามารถของบรรดาแข้ง สิงโตคำราม ประจำเกมนี้
รายการ: ฟุตบอล ยูโร 2024 รอบคัดเลือก
วันแข่งขัน: วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2566
สนาม: โทเซ โพรเอสกี้ อารีน่า
ผลการแข่งขัน: มาซิโดเนียเหนือ 1-1 อังกฤษ
เป็นเกมที่น่าหงุดหงิดพอตัวของ อังกฤษ เมื่อทั้งที่ทำทุกอย่างได้ดีกว่า เหนือกว่าแล้ว กลับได้แค่ผลเสมอกับ มาซิโดเนียเหนือ 1-1 เท่านั้น สำหรับเกมส่งท้าย รอบคัดเลือก ยูโร 2024 ที่ควรถือว่า “เสียฟอร์ม” เล็กๆ แม้จะไม่ได้ถึงขั้นแพ้เป็นการสั่งลาก็ตาม
คะแนนนักเตะ อังกฤษ
จอร์แดน พิคฟอร์ด – 6 – ไม่มีบทบาทกับเกมตลอดครึ่งชั่วโมงแรก แต่แล้วจู่ๆ ก็มาโดนจุดโทษ แม้จะเซฟได้แต่ก็โดนซ้ำดาบสองจนเสีย 0-1 ในนาที 41 และจากนั้นก็ไม่มีบทบาทอะไรนอกจากเตะเปิดเกม
ริโก้ ลูอิส – 7 – กลายเป็นคนที่ได้ยิงครั้งแรกของเกม แต่งัดโด่งไปไม่มีลุ้น และที่จริงก็มีครึ่งแรกที่ไม่เลว มีส่วนร่วมกับเกมเยอะ กระนั้นก็มาโดนจับฟาวล์เสียจุดโทษ น.40 เมื่อผู้ตัดสินมองว่ายกแขนไปฟาดหน้าคู่แข่ง ภาพรวมเกมประเดิมทีมชาติชุดใหญ่ ถือว่าไม่แย่
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ – 5 – เหมือนกลัวไม่มีคอนเทนท์ น.23 เลยจ่ายเข้าเท้าคู่แข่งดื้อๆ แล้วยังตามลงไปชนล้มแบบไม่มีทรงในเขตโทษ ยังดีที่ผู้ตัดสินปล่อยผ่าน แต่ก็มีการมองกันว่า เพราะจังหวะนี้เองทำให้ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษง่ายเหลือเกินในอีกไม่กี่นาทีให้หลังที่ ริโก้ ลูอิส เสียเหลี่ยม
มาร์ก เกฮี – 6 – ไม่เจอบททดสอบยากๆ เมื่อ อังกฤษ ครองเกมเป็นส่วนมาก และเจ้าบ้านถอยร่นไปเล่นเกมรับทั้งทีมจนกองหน้าแทบไม่ได้ทำอะไร เท่ากับโดยรวมถือว่าไม่แย่
ไคล์ วอล์คเกอร์ – 6 – เล่นอย่างแข็งแกร่งและแสดงถึงประสบการณ์สูงในเกมรับ แต่เกมรุกดูบอดๆ ไปหน่อย ไม่ค่อยมีการประสานงานกับ บูกาโย่ ซาก้า ให้เห็นเท่าไหร่
ดีแคลน ไรซ์ – 8 – เกือบพา อังกฤษ ขึ้นนำในนาทีที่ 14 เมื่อลูกส่องไกลของเขาพุ่งเข้าชนเสาไกลอย่างจัง จากนั้นก็เล่นด้วยชั้นเชิงและเซนส์บอลสูงๆ ทำให้แดนกลางของ อังกฤษ ค่อนข้างไหลลื่น ถือว่าเด่นที่สุดของทัพสิงโตเกมนี้
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – 6 – บทบาทลดลงไปเมื่อเทียบกับเกมก่อน แต่ก็เกือบยิงตีเสมอให้ทีมได้ตอนทดเจ็บครึ่งแรก เมื่อลูกซัดที่เกือบเสียบใต้คานถูกเซฟเอาไว้อย่างหวุดหวิด
แจ๊ค กรีลิช – 5 – ประสานงานกับ ริโก้ ลูอิส ได้ดีทีเดียวทางกราบซ้าย แต่ก็เจอเกมตัดหนักของเจ้าถิ่นอยู่ตลอด รวมถึงโชคไม่ดีที่ลูกเข้าชาร์จต้นครึ่งหลัง ถูกจับล้ำหน้าจนอดได้ประตู และภาพรวมถือว่าเล่นไม่ค่อยออก
ฟิล โฟเด้น – 7 – ถูกวางเป็นกลางรุกตัวตรงกลาง และมีบทบาทสูงในการออกบอลทั้งขึ้นหน้าและลงหลัง รวมถึงเล่นลูกตั้งเตะ ซึ่งก็เป็นคนเปิดเตะมุมเข้าไปจน อังกฤษ ได้ประตูตีเสมอ 1-1 กลางครึ่งหลัง
บูกาโย่ ซาก้า – 6 – ลากเลื้อยไม่ออกในครึ่งแรกเมื่อโดนเล่นเกมหนักใส่อยู่ตลอดเวลา ส่วนครึ่งหลังมีจังหวะกระชากผ่าน 2-3 คนไปแอสซิสต์ให้ กรีลิช เข้าชาร์จตุงตาข่าย แต่ก็ล้ำหน้าไปเสีย
โอลลี่ วัตกิ้นส์ – 5 – โดนรุมประกบจนเล่นยาก บ่อยครั้งต้องเจอสถานการณ์รุม 3-4 จากกองหลัง แล้วตัวเองอยู่คนเดียวในเขตโทษ ครั้นพอมีโอกาสก็เป็นโอกาสแบบจางๆ ไม่เต็มที่ จนถือเป็นเกมที่ไม่น่าจดจำ
สำรอง
แฮร์รี่ เคน (แทน โอลลี่ วัตกิ้นส์ น.58) – 6 – เป็นเหมือนตัวนำโชคที่เมื่อลงไปในสนามแค่ไม่กี่วินาที อังกฤษ ก็ตีเสมอ 1-1 ทันที จังหวะโถมโขกของเขาที่บอลชนกองหลังเจ้าบ้านเข้าประตูตัวเองไป อย่างไรก็ตาม ก็ลงไปเจอปัญหาเหมือน วัตกิ้นส์ ที่โดนรุมจนทำอะไรไม่ถนัด
แคลวิน ฟิลลิปส์ (แทน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น.84) N/Aสัมผัสบอลนับครั้งได้ กับการลงสำรองตอนท้ายที่มีเวลาในสนามแค่นับนิ้วได้
มาร์คัส แรชฟอร์ด (แทน แจ๊ค กรีลิช น.84) N/A ไม่มีบทบาทเช่นกันกับการลงไปยืนทางฝั่งซ้าย ในช่วงไม่กี่นาทีท้ายที่เหลือ
โคล พาล์มเมอร์ (แทน บูกาโย่ ซาก้า น.84) N/A น่าเสียดายว่าด้วยฟอร์มดีๆ กับ เชลซี ทำให้น่าได้รับโอกาสจากเกมนี้ มากกว่าแค่ 5-6 นาทีท้าย
